ประวัติก้นปึก ระยอง

ก้นปึก มีพืนที 497 ตารางกิโลเมตร จํานวนประชากรตามทะเบียนราษฎร์ 630 คน
             จํานวนครัวเรือน 134 ครัวเรือน จํานวนประชากร ชาย 295 คน หญิง 335 คน ผู้อายุ 64 คน เด็กเล็ก 89 คน(ข้อมูลจากเทศบาล พ.ศ 2557) 
             เท่าที่ผมรู้มา เดิมที เรียกปากปึก ัแต่ก็ยังมีอีกหลายชื่อนะ ก่อนที่จะมาเรียกกันว่า ก้นปึก อย่างเช่น "หลุมญวณบ้าง" "หลุมอีโบ๋"บ้าง เป็นป่าช้าเก่าก็ว่าได้เพราะสมัยนั๊นคน ญวณ อพยพมา อยู่ ปากปึกหรือก้นปึก นั่นเอง ที่เขาเรียกกัน ว่า "ปากปึก"ก็ เพราะเป็นพื้นที่ปากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเล ต่อมาแม่น้ำเปลี่ยนทิศทางเดินปากแม่น้ำปิดลงเพระ ภัยมรสุม ถูกทรายทับถมปิดกั้นทางด้านตะวันออก(แหลมรุ่งเรือง ปัจจุบัน) ถูกปิดตัน จึงเรียกกันว่า ก้นปึก  ภายหลัง ชาวบ้านในแถบนั๊น จึงได้รวมตัว สามัคคีขุดปากร่องแหลมเจริญ ใน พ.ศ 2509-2519  ราวๆนั๊นนะ
 (เพราะตอนนั๊น ผมเองก็ยังพอ คลับคล้ายคลับครายังพอจำใด้ ผมเองก็ยัง) ด้วยมือบ้าง ชามกินข้าวบ้าง จอบเสียมบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้านพายุที่ถาโถมเข้ามาอีกจนทำให้ปากร่องน้ำทะเลต้องปิดลงอีก แต่ภายหลัง ไม่ทราบว่าไครเป็นผู้นำรถ แม๊คโครเข้ามาช่วย และที่หน้าแปลกก็คือ เวลาน้ำในคลองแห้งขอด สามารถเดินไปมาหาสู่กันได้ แต่ทำไมน้ำทะเลถึงไม่หนุนเข้ามา อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร
หมู่บ้านก้นปึก    เป็นหมู่บ้านเล็กๆมึ ครอบครัว "สมุทรเสน""ครอบครัว ชูชุ่ม"
ครอบครัว"เบญจมาศ" เข้ามาอาศัยในยุคแรกๆ (แต่ซีกทางแหลมรุ่งเรืองเขาเล่ากันมาว่าเดิมทีเรียกว่า หลุมอีโบ๋บ้าง หลุมญวณบ้างเพราะสมัยก่อนคนญวณได้อพยบเข้ามา )ซึ่งมีไม่กี่หลังคาเรือน มีแม่น้ำคลองกั่นกลาง ระหว่างทิศตะวันออก-ทิศตะวันตก ภายหลังมีประชากรหนา ขึ้น ชาวบ้านฝั่งตะวันออก ร่วมมือร่วมใจสามัคคี สร้างสะพานไม้ เพื่อเป็นที่สัญจรไปมาหาสู่กันใด้
อนึ่งหากว่า

(ท่านใดต้องการ ข้อมูล เกี่ยวกับความเป็นของจังหวัด ระยองในอดีต) คลิ๊ก
อาชีพ ส่วนชาวก้นปึกจะมีอาชีพประมงเรือเล็กซะส่วนมาก หาเช้ากินค่ำ ส่วนเรือไหญ่แต่ก่อนไม่สามารถจะเข้ามาในคลองใด้ ต้องคอยอาศัยเรือโป๊ว ที่ไม่มีดาดฟ้า ไม่มีเก๋ง คอยไปรับปลาที่เรือไห้ได้เข้ามา และถ่ายสู่เรือโป๊วเข้ามาสู่แพ เพื่อเขาให้เขาเลือกกัน( ข้อมูลจาก ท่าน สท.ประกิต ปัจฐวีศรีสุทธา
ประธานสภาเทศบาลณครระยอง)
(เสียดายที่หารูปภาพมาไห้ดูกันใด้ แต่ถ้าไครมีหลงเหลือบ้าง มาแบ่งปันกันบ้างก็ดีนะครับ มันจะใด้เสร็จสมบรูณ์ ของข้อมูล ประวัติก้นปึกบ้านเรา) แต่ปัจจุบันยังคงสภาพเหมือนเดิม คือการออกเรือหาเช้ากินค่ำ ของชาวบ้านก้นปึก ส่วนเรือไหญ่ก็ ค้างคืนสิบกว่าวันถึงจะเข้าฝั่ง

ประเพณี ในอดีตมีประเพณีสงกรานต์ จะมีการสรงน้ำพระ รดน้ำขอพรผู้หลักผู้ไหญ่ และที่สำคัญมีการละเล่น ที่รู้จักกันทั่วก้นปึก คือการละเล่น "แม่ศรี"ซึ่งมี นายพิเชษฐ์ เบญจมาศ เป็นผู้ริเริ่มในการอนุรักษ์ ประเพณีสงกรานต์ โดยการละเล่น  คนที่เป็นแม่ศรีนำมาแต่งตัวไห้สวยงาม จะเลือกคนที่ รำไม่เป็น มานั่งบนครก ตำข้าวที่อยู่กลางวง หรือที่ใดก็ได้ ที่เลือกใว้ให้เด่นคนเดียว แล้วนำผ้ามาปิดตา ส่วนผู้เล่นที่เหลือก็จะร้องเพลงเชิญแม่ศรีให้เข้าผู้ที่เป็นแม่ศรี ร้องซ้ำไปซ้ำมาจนแม่ศรีลุกขึ้นรำว่า "แม่ศีรเอย แม่ศีรสาวสะ ยกมือไหว้พระ ว่าจะมีคนชมขนคิ้วเจ้าต่อ ต้นคอเจ้ากลม ซักผ้าปิดนม ซมแม่ศรีเอย(ปัจจุบันมีการละเล่นที่ สะพานก้นปึก มีการพายเรือ รำวงย้อนยุค และอื่นๆ) เป็นที่มา ของการเชิญแม่ศรี แต่ภายหลัง เริ่มห่างหาย เพราะก้นปึกเริ่มเจริญขึ้นเรื่อยๆ ทำไห้ ใด้ห่างหายไป
ปัจจุบัน ยังคงมีการจัดงานสงกรานต์ ที่หัวสะพานเทศบาล8(สะพานก้นปึก) มีการ ก่อพระเจดีย์ทราย สงน้ำพระ อาบน้ำผู้สูงอายุ การละเล่น มีทั๊งการแข่งขัน 5ฝีพาย ชกมวยเด็ก รำวงย้อนยุค  อื่นๆอีกมากมาย










แหล่งของสดจากทะเล
     ก้นปึกขึ้นชื่อว่า ติดทะเลย่อมมี ของสดจากทะเล ทุกวันไม่เคยขาดไม่ว่าจะเป็น กุ้งหอย ปู ปลา-ปล่าเล็ก ปลาไหญ่
ราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด หรือ ท่านจะนั่งตกปลาพร้อมกับธรรมชาติ ยามอาทืตย์ตก ของแหลมเจริญซีฟู๊ด







แหล่งท่องเที่ยว แน่นอนไม่มีที่ไหนที่ดีี่สุด นอกจากสะพานก้นปึก(หรือสะพานเทศบาล8) ที่มีทิวทัศน์  อันโดดเด่นคือ เราสามารถเห็น น้ำคลองและน้ำทะเล ในที่เดียวกัน และเป็นที่ ผู้ที่มีใจรักในการตกปลา จะมาทุกครั๊งในยามเย็น
















3 ความคิดเห็น:

หวัดดีชาวโลก